จีนเป็นประเทศเกษตรกรรม ฉะนั้นธรรมเนียมและประเพณีต่าง ๆ จึงเกียวกับเกษตรกรรมทั้งสิ้น ความเป็นอยู่ของชาวนาก็ขึ้นอยู่กับคราดไถในฤดูใบไม้ผลิ หว่านดำในฤดูร้อน เก็บเกี่ยวในฤดูใบไม้ร่วง และเก็บเข้ายุ้งฉางในฤดูหนาว ใน 4 ฤดูจะมีงานมากในฤดูใบไม้ผลิถึงฤดูใบไม้ร่วง ในฤดูหนาวก็จะว่าง ฉะนั้นเมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว ก็จะเตรียมไหว้เทวดาฟ้าดินและบรรพบุรุษ เพิ่อขอให้บรรพบุรุษปกป้องรักษา และฟ้าดินประทานโชคลาภ ทำให้อากาศดีฝนตกต้องตามฤดูกาล ในสมัยโบราณก่อนที่จะทำการเซ่นไหว้ก็จะต้องไปล่าสัตว์มาเป็นเครื่องสังเวย จึงเรียกเดือน 12 ว่าเดือนล่า(腊)ซึ่งหมายถึงเดือนแห่งการล่าสัตว์ และพิธีบวงสรวงเทพเจ้าในเดือน 12 ก็คือการล่าสัตว์มาเซ่นไหว้ การเซ่นไหว้เทพเจ้านั้นมีอยู่ 8 องค์ ดังนั้ นจึงเรียกว่า “ล่าปา” คำว่า “ปา” ในที่นี้หมายความว่า 8
ยังมีตำนานเล่าขานกันว่า “ล่าปา” นั้นเป็นการระลึกถึงพระพุทธเจ้าตรัสรู้ในวันขึ้น 8 ค่ำเดือน 12 นับตั้งแต่พุทธศาสนาได้เผยแพร่เข้ามาในประเทศจีน การไหว้ฟ้าดินหรือไหว้พระนั้นก็มีความหมายเดียวกัน ในเดือน 12 นั้นยังมีประเพณีต้ม ”โจ๊กล่าปา” และธรรมเนียมเก็บกักตุนเนื้อสัตว์หลังการเก็บเกี่ยวในฤดูหนาว ชาวบ้านต่างก็เอาผลผลิตเช่น ธัญพืชและถั่วนานาชนิดมาหุงต้มด้วยกัน เรียกว่า “โจ๊กล่าปา” “โจ๊กล่าปา” นั้นมีประโยชน์บำรุงร่างกาย หลังจากเซ่นไหว้และรับประทานแล้ว เนื้อสัตว์ส่วนที่เหลือยังมีอีกมากมาย ก็นำมาเคล้าเกลือตากแห้งเก็บไว้เป็นเสบียงต่อไป